รีวิว บุพเพร้อยร้าย
รีวิวละคร สวัสดีครับ วันนี้แอดมินมารีวิวละครไทย เรื่อง บุพเพสร้อยร้าย ละครไทย ในปี 2565 เป็นเรื่องที่แอดชอบมากเรื่องนึงเลยก็ว่าได้ มุกมณี (ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์) รองบ.ก.สาวแห่งสำนักข่าวชื่อดังอย่าง Women on the Top เคยชินอยู่กับชีวิตที่เธอควบคุมทุกอย่างได้มาตลอด 27 ปี แต่แล้วชีวิตที่เป็นระบบระเบียบของเธอก็ถึงคราวสั่นคลอน เมื่อเธอต้องไปร่วมงานแต่งงานระหว่าง เกล็ดดาว(ชนนิกานต์ เนตรจุ้ย) นางแบบสาวเพื่อนรักของเธอกับ ธัช (รพีพงศ์ ทับสุวรรณ) นาย
แพทย์หนุ่มหล่อ และได้พบกับ ชินกฤต (พงศกร เมตตาริกานนท์) เพื่อนเจ้าบ่าวที่เป็นทนายหนุ่มหน้าตาคมเข้ม ผู้มาพร้อมฝีปากคมกริบ และมีเหตุให้ต้องปะทะคารมกันอยู่หลายยก เธอรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าเขา เขาเองก็ดูไม่กินเส้นกับเธอนัก และทั้งสองก็คงไม่ต้องโคจรมาพบกันอีก หากไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุบางอย่างที่ทำให้เขาและเธอ ตื่นขึ้นมาบนเตียงเดียวกันในสภาพเปลือยเปล่าอย่างไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ ดูหนังฟรี
รีวิว บุพเพร้อยร้าย
รีวิวละคร นั่นไม่ใช่คลื่นลูกเดียวที่ซัดเข้ามาทำให้มุกมณีเสียศูนย์ แต่อยู่ๆเธอก็ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเผยแพร่เฟคนิวส์ เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมใบหน้าของ โสภิตา(ปกฉัตร เทียมชัย) นักแสดงสาวสมองกลวง และกำลังจะถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินหลายล้าน มุกมณีมั่นใจว่าเรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของ ดาริน(กัญญาภัค พงษ์ศักดิ์) รองบ.ก.อีกคนของ Women on the Top ที่กำลังช่วงชิงตำแหน่งบ.ก.กับเธอ แต่ในเมื่อเธอไม่มีหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ ปาริณี (สกาวใจ พูนสวัสดิ์) เจ้านายของเธอจึงจำต้องจ้างทนายฝีมือดีมาสู้คดีให้เธอ ซึ่งทนายคนนั้นก็คือชินกฤตนั่นเอง
แม้จะเริ่มต้นกันได้ไม่สวยนัก แต่เมื่อต้องใกล้ชิดกันในฐานะทนายและลูกความ มุกมณีก็แอบยอมรับในความเก่งกาจของชินกฤต โดยเฉพาะหลังจากที่เขาไปสืบรู้มาว่า โสภิตาร่วมมือกับดารินใส่ร้ายมุกมณี เพราะเข้าใจผิดว่ามุกมณีแย่ง เดชา(ปราบ ยุทธพิชัย) นักการเมืองที่เธอเคยคบหาไป ทั้งๆที่ความจริงแล้วเดชาคือพ่อแท้ๆที่มุกมณีไม่ใยดีด้วย เพราะเคยทำร้ายจิตใจแม่ของเธอจนตัดขาดกันไปเมื่อนานมาแล้วนั่นเอง
แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชินกฤตชนะคดีนี้ได้ก็คือ การที่เขาได้รู้ว่าปัจจุบันโสภิตาแอบคบหาอยู่กับ สินชัย (ศรัณยู ประชากริช) นักธุรกิจเจ้าของโรงแรมชื่อดัง ซึ่งนอกจากจะเป็นคู่แค้นในอดีตของเขาแล้ว ยังมีลูกมีเมียแล้วอีกด้วย ชินกฤตจึงใช้ข้อมูลดังกล่าวเป็นแต้มต่อ ให้สินชัยสั่งให้โสภิตายอมถอนฟ้อง แลกกับการที่ไม่ต้องถูกภรรยาฟ้องหย่าเอาทรัพย์สินจนหมดตัว
คดีความจบลงด้วยดี แต่เรื่องของมุกมณีกับชินกฤตดูจะไม่จบลงแค่นั้น เมื่อทั้งสองแอบพึงพอใจกันอยู่ลึกๆ และต่างก็พร้อมจะเปิดประตูให้อีกฝ่ายเข้ามาสานสัมพันธ์ กระนั้นสถานการณ์ก็พลิกผันอีกครั้ง เมื่อมุกมณีได้รับข้อความปริศนาว่า “คุณเป็นนักข่าวใช่ไหม ฉันขอนัดเจอคุณได้ไหม ฉันมีเรื่องเกี่ยวกับการขายตัวใน Showtime อยากจะเล่าให้ฟัง” จากหญิงสาวชื่อ เอวา(นารา เทพนุภา) ซึ่งมุกมณีค้นเจอในภายหลังว่า เธอเคยเป็นนักแสดงฝึกหัดอยู่ที่ Showtime Management เอเจนซี่นักแสดงยักษ์ใหญ่ ซึ่งชินกฤตเป็นทนายประจำบริษัทอยู่
สัญชาตญาณนักข่าวทำให้เป้าหมายของมุกมณีเริ่มเบี่ยงเบน จากที่เข้าหาชินกฤตเพราะเรื่องหัวใจล้วนๆ ก็เริ่มแบ่งพื้นที่ให้เรื่องงานเข้ามามีเอี่ยว ยิ่งเมื่อได้รู้ว่า ธาม(รพีพงศ์ ทับสุวรรณ) เจ้าของ Showtime Management ที่เป็นคู่แฝดของธัชและเป็นเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งของชินกฤต เคยมีความสัมพันธ์เกินเลยกับเอวาจนทำให้เขาถูกคนรักอย่าง ช่อผกา (คาลิยา นิฮุต) ถอนหมั้นมาแล้ว ก็ยิ่งทำให้มุกมณีมองเห็นความเป็นไปได้ในข้อความที่เอวาส่งมา
มุกมณีวางแผนจะเข้าไปทานข้าวกับ ชรัณ(สุเมธ องอาจ) และ กฤติยา(ภัสสร บุณยเกียรติ) พ่อและแม่ของชินกฤตที่บ้านของเขา เพื่อค้นหาฮาร์ดดิสก์ซึ่งเอวาใช้บันทึกข้อมูลสำคัญบางอย่าง และเธอเชื่อว่าตอนนี้มันอยู่กับชินกฤต แต่กระนั้นยังไม่ทันที่เธอจะได้ก้าวเข้าบ้านชินกฤต แผนของเธอก็เป็นหมันไปเสียก่อน เมื่อ นีรพัธ (มารีน่า บาเล็นซิเอก้า) ผู้จัดการฝ่ายดูแลนักแสดงสาวสวยของ Showtime ที่แอบมีใจให้ชินกฤตมาเนิ่นนาน ล่วงรู้ว่าเธอมีจุดประสงค์แอบแฝงในการเข้าหาชินกฤต และได้นำเรื่องนี้ไปบอกเขา จนทำให้ชินกฤตไม่พอใจ และไม่ยอมให้มุกมณีมาตีสนิทอีก
แต่ความต้องการคอนเทนต์เด็ดๆ ที่จะสร้างแต้มต่อให้เธอเอาชนะดารินและคว้าตำแหน่งบ.ก.มาได้ ทำให้มุกมณีไม่ยอมแพ้ และเกิดความคิดพิสดารที่ว่า ถ้าชินกฤตไม่ยอมให้เธอเข้าหา เธอก็จะใช้เสน่ห์ที่เธอมั่นอกมั่นใจว่ามีมากพอ ทำให้เขาคลั่งรักและเป็นฝ่ายเข้าหาเธอ จนยอมเปิดทั้งประตูบ้านและประตูหัวใจให้เธอเข้าไปล้วงความลับได้อย่างง่ายดาย
มุกมณีไม่ได้ดำเนินแผนนี้เพียงลำพัง แต่ยังขอร้องแกมบังคับ พิมพ์ขวัญ(มิณฑิตา วัฒนกุล) ออกาไนเซอร์สาวแกร่งเพื่อนรักของเธอ ให้ต้องมาหัวหกก้นขวิดไปกับเธอด้วย ซึ่งพิมพ์ขวัญก็ได้รับความช่วยเหลือจาก จิม (ธนพล จารุจิตรานนท์) ผู้ช่วยหน้าอ่อนของชินกฤต ที่ยอมขายข้อมูลของลูกพี่เพื่อแลกกับการให้พิมพ์ขวัญช่วยเขาจีบ พลอยมณี (ลลินา ชูเอ็ทท์) น้องสาวแท้ๆของมุกมณี ที่นอกจากจะเป็นนักศึกษาฝึกงานอยู่ที่ Showtime แล้ว ยังแอบหลงรักเจ้านายอย่างธามอีกด้วย…เห็นได้ชัดว่า มันคงนำไปสู่ความสัมพันธ์อิรุงตุงนังของพิมพ์ขวัญ พลอยมณี จิม และธามแน่นอน
ข้อมูลที่พิมพ์ขวัญหามาได้และเป็นประโยชน์กับมุกมณีอย่างมากก็คือ เรื่องที่ชินกฤตชอบการแข่งขันเป็นอย่างยิ่ง เธอตระหนักในทันทีว่าวิธีที่รวดเร็วที่สุดในการทำให้ชินกฤตหันมาสนใจเธอ ก็คือการหาคู่แข่งให้เขา มุกมณีจึงบากหน้าไปข้อความช่วยเหลือจาก ปรเมศร์ (ณคุณ โรจนัย) เกย์หนุ่มผู้บริหารสตรีมมิ่งชื่อดังอย่าง ZeenTV ซึ่งในอดีตเคยแอ๊บแมนมาคบเธอเพื่อปกปิดเพศภาวะของตนเอง ให้มารับสมอ้างเป็นคนรักของเธออีกครั้ง แรกทีเดียวนั้นปรเมศร์ก็ไม่คิดจะทำตามคำขอของมุกมณี เพราะเขามี คามิน (อชิรวิชญ์ สุภาวิตา) เด็กหนุ่มเจ้าของร้านกาแฟเป็นคนรักอยู่แล้ว แต่ก็เป็นคามินนั่นเองที่บอกให้เขายอมช่วยเธอ เพราะเห็นว่าสามารถให้มุกมณีเป็นกันชน ไม่ให้ใครล่วงรู้สถานะของพวกเขาได้เช่นกัน
ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของมุกมณี เพราะไม่ว่าชินกฤตจะพยายามปฏิเสธตนเองแค่ไหน และไม่ว่าตัวกวนใจอย่างดารินกับ วีว่า(เพียวฤดี พงษ์ประเสริฐ) ผู้ช่วยของเธอ รวมถึงศัตรูหัวใจอย่างนีรพัธจะพยายามเข้ามาวุ่นวายขัดขวางเพียงใด แต่ด้วยเทคนิคอันแพรวพราวเต็มไปด้วยลูกล่อลูกชนของมุกมณี ในเวลาไม่นานนักชินกฤตก็ตกหลุมรักมุกมณีอย่างไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว ขณะเดียวกันการได้เข้าไปใกล้ชิดสนิทสนม ก็ทำให้มุกมณีเผลอประทับใจในตัวชินกฤตอย่างไม่ทันตั้งตัวเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเมื่อเธอได้รู้ว่า ก่อนหน้าที่จะได้มารู้จักกันนี้ เธอและเขาได้เฉียดใกล้กันมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่เธอเผชิญความเสียใจในวัยเด็ก หรือจะเป็นในยามที่เขาและเธอรับบทบาทสมมติในโลกไซเบอร์ก็ตาม ทั้งหมดนี้ทำให้มุกมณีซึ่งโดยปรกติไม่ใช่คนที่เชื่อในอำนาจที่มองไม่เห็น เริ่มตระหนักถึงพลังของพรหมลิขิตหรือบุพเพสันนิวาสขึ้นมา ดูหนังใหม่
สรุป บุพเพร้อยร้าย
รีวิวละคร มุกมณีไม่ได้เป็นคนเดียวที่ถูกความรักเล่นกล แต่ยังรวมถึงเพื่อนๆ และน้องสาวของเธอด้วย ขณะที่พลอยมณีคอยแอบปลื้มธามอยู่ห่างๆ พิมพ์ขวัญเองก็ต้องช่วยจิมที่แอบปลื้มพลอยมณีอยู่อีกที ให้สมหวังในความรักตามที่ได้ตกปากรับคำว่า แต่ไม่ว่าจะเล่นด้วยเล่ห์หรือเล่นด้วยกล ใช้ทั้งมนต์หรือแม้แต่หมอดู จิมก็ดูไม่มีทีท่าว่าจะสมหวังในความรัก แต่กลับทำให้พลอยมณีปักใจเชื่อว่าธามคือเนื้อคู่ของเธอด้วยซ้ำ จนเขาเริ่มท้อใจ พิมพ์ขวัญเองแม้จะชอบต่อปากต่อคำกับจิม แต่เมื่อเห็นเขาซึมเศร้าจึงอดไม่ได้ที่จะปลอบใจ โดยไม่ได้คิดมาก่อนว่ามันจะนำไปสู่การเผลอจูบ ที่ทำให้เธอเกิดอาการวาบหวิวหวั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ส่วนเกล็ดดาวนั้น แม้จะเป็นฝั่งเป็นฝาไปแล้วแต่ก็ยังเจอเรื่องปวดหัว เมื่อเธอตกลงกับธัชไว้ว่าไม่ต้องการมีลูก แต่กลับจับได้ทีหลังว่าธัชวางแผนมัดมือชกจะทำให้เธอท้องให้ได้ เกล็ดดาวโกรธมากจนหอบผ้าหอบผ่อนย้ายออกจากบ้านธัช ร้อนถึงชินกฤตและมุกมณีที่ต้องวางแผนให้ทั้งสองกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง นอกจากแผนนั้นจะสำเร็จด้วยดีแล้ว มันยังทำให้ทั้งคู่ได้รู้ความจริงว่า ในคืนแต่งงานของธัชและเกล็ดดาวนั้น มุกมณีและชินกฤตแค่จับพลัดจับผลูมานอนห้องเดียวกัน แต่ยังไม่มีอะไรเกินเลยแต่อย่างใด
ถึงแม้จะยังไม่มีการล่วงล้ำทางร่างกาย แต่ในด้านหัวใจนั้น มุกมณีรู้ดีว่าเธอถูกรุกล้ำมามากพอตัว เธอพยายามดึงตัวเองให้กลับมาคิดเรื่องงาน และวางแผนเผด็จศึกชินกฤตด้วยการแสร้งมีปัญหากับปรเมศร์จนต้องเลิกรากัน เป็นการเปิดโอกาสให้ชินกฤตยอมเปิดเผยความในใจและขอคบหาเธออย่างเป็นทางการ
ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่เธอตั้งใจไว้ เพราะหลังจากนั้นไม่นานนัก มุกมณีก็ได้มีโอกาสไปเยี่ยมบ้านของชินกฤต และเธอก็ไม่พลาดที่จะแอบขึ้นไปบนห้องส่วนตัวของเขาเพื่อหยิบฮาร์ดดิสก์ที่เธอคาดว่าเป็นของเอวา แม้จะเปิดดูไม่ได้เพราะมันเข้ารหัส แต่กระนั้นแผนของเธอก็ไม่ได้สูญเปล่า เมื่อเธอพบข้อมูลที่น่าสงสัยว่าครั้งหนึ่งชินกฤตเคยเป็นทนายแก้ต่างให้สินชัยในคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กสาวชื่อ นุชชี่
มุกมณีไม่เก็บความสงสัยไว้นาน เธอรีบตรงไปหา นพนภา แม่ของนุชชี่ซึ่งเป็นโจทย์ยื่นฟ้องในคดีดังกล่าว และได้ข้อมูลอันชวนอึ้ง เมื่อนพนภาด่าประณามชินกฤตสาดเสียเทเสีย อีกทั้งยังยืนยันความคิดตนเองว่าชินกฤตก็คงเลวไม่ต่างกับสินชัย ไม่งั้นคงไม่ยอมทำคดีให้สินชัยพ้นความผิดอุกฉกรรจ์ได้
คำยืนยันของนพนภาทำให้มุกมณีเกิดความสับสน เพราะถ้าหากเป็นจริง ก็เท่ากับชินกฤตสมรู้ร่วมคิดกับสินชัย และอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องในธุรกิจค้ากามภายใน Showtime ซึ่งทั้งหมดนั้นก็ดูจะสวนทางกับภาพลักษณ์แสนดีและรักความยุติธรรมแบบที่เธอเคยสัมผัส และทำให้เธอเริ่มหลงรักเขา รีวิวคังคุไบ
บทประพันธ์ : อินเอวา
ดัดแปลงบทโทรทัศน์ : วรกร
กำกับการแสดง: สมุทร น่วมเศรษฐี
แนวละคร : โรแมนติกคอมเมดี้
ผลิต : บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ผู้จัด : หน่อง อรุโณชา
วันเวลาออกอากาศ : ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ทางช่อง 3 กด 33
ระยะเวลาออกอากาศ : ตอนแรก วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคมนี้