รีวิว ใบไม้ที่ปลิดปลิว

ถ้าจะให้พูดถึงละครไทยจากช่อง ONE ที่สนุกสุดมันส์ มีครบทุกอารมณ์ ดราม่าแบบหนักๆจนใครหลายคนต้องอินตามกันมาแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าละคร ใบไม้ที่ปลิดปลิว จะต้องติดอันดับมาเป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน โดยในละครเรื่องนี้ได้นางเอกมากฝีมืออย่าง “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก” มาเดินเรื่องร่วมกับนักแสดงชื่อดังอย่างคับคั่ง ต่างคนต่างใส่อารมณ์กันแบบจัดเต็มไม่มีเหนื่อย ส่งผลทำให้ละครเรื่องใบไม้ที่ปลิดปลิวประสบความสำเร็จและมีกระแสตอบรับที่ดีมากๆเมื่อปีพ.ศ.2562 แม้แต่ในปัจจุบันหลายคนก็ยังคงพูดถึงกันอยู่ บทความนี้จึงจะขอมา สรุปเรื่องย่อละครใบไม้ที่ปลิดปลิว ให้ทุกท่านได้อินกันอีกครั้ง

 

เรื่องราวของเด็กชายคนหนึ่งที่เกิดมาในตระกูลใหญ่โตนามว่า “ชนันธวัช” ถึงแม้ร่างกายจะเป็นชาย แต่ใจของเขานั้นคือผู้หญิงอย่างแท้จริง เขาใฝ่ฝันอยากจะสวยเหมือนแม่ แม่ที่ทั้งรักทั้งห่วงใยเขามากๆอย่าง “นิรมล” แต่ด้วยความที่ชนันธวัชเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว ทำให้ผู้เป็นพ่ออย่าง “ชมธวัช” กับผู้เป็นอาที่ชื่อ “รังรอง” ต่างพากันเกลียดชังในตัวเขา ทั้งแม่และชนันธวัชต้องฝ่าฝืนความกีดกันที่โหดร้ายและรุนแรงจากพ่อกับอา ดูหนัง ดูหนังออนไลน์

 

รีวิว ใบไม้ที่ปลิดปลิว พล็อตเรื่อง

จะมีก็เพียงแต่ “ชัชวีร์” อาเขยที่คอยดูแล คอยให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะสามารถช่วยเหลือได้ สุดท้ายผู้เป็นแม่ตัดสินใจพา ชนันธวัช ไปต่างประเทศ เพื่อผ่าตัดแปลงเพศให้เป็นผู้หญิงอย่างที่เขาตั้งใจ จนในที่สุดจากเด็กหนุ่มที่ชื่อ ชนันธวัช ได้กลายเป็นหญิงสาวแสนสวยในชื่อ “นิรา คงสวัสดิ์”

 

 

 

การเริ่มต้นชีวิตใหม่ของนิราดูเหมือนกำลังจะไปได้ดี แต่และแล้วนิรมลกลับต้องมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตลง นิราตัดสินใจเดินทางกลับมาเมืองไทยอีกครั้ง พร้อมกับได้สร้างข่าวการตายของชนันธวัชขึ้นมาอีกด้วย การกลับมาในครั้งนี้ก็เพราะตัวนิรานั้นอยากจะแก้แค้นทุกๆคนที่เคยสร้างความเจ็บปวด ความสูญเสีย(โดยเฉพาะการสูญเสียคุณแม่)ให้เธอ อีกทั้งก็เพื่ออยากจะพิสูจน์กับตัวเองว่า เธอไม่ใช่เป็นแค่กระเทยไร้ค่าอีกต่อไป รีวิวละคร

 

 

การแก้แค้นกำลังเริ่มขึ้น แต่ทว่าเธอก็ต้องพบกับอุปสรรคในการแก้แค้น ซึ่งอุปสรรคครั้งนี้ของนิรานั่นก็คือ อาเขยผู้เป็นทั้งรักแท้ ทั้งรักแรก แถมยังเป็นคนที่คอยช่วยเหลือแม่และเธอมาโดยตลอดตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กอย่าง ชัชวีร์ ส่งผลทำให้นิราจะต้องเลือกระหว่างความรักกับความแค้น เรื่องราวทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร

 

ละคร ใบไม้ที่ปลิดปลิว

ปิดฉากไปสะเทือนใจคนดูทั้งประเทศ สำหรับละครสุดดราม่า ใบไม้ที่ปลิดปลิว ทางช่อง One31 ที่นางเอก ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ใส่พลังและฝีมือการแสดงลงในตัวละคร นิรา สาวข้ามเพศที่เลือกแก้แค้นทุกคนที่เคยทำร้ายเธอ จนทำให้ชีวิตที่ควรจะมีความสุขต้องพังลงตรงหน้า รีวิวละครไทย

 

 

บอกเลยว่าฉากที่แสนสะเทือนอารมณ์ส่งท้ายตัวละคร นิรา สาวใบเฟิร์นถ่ายทอดออกมาได้อย่างตีบทแตกจนน่าขนลุก สมฝีมือตัวแม่ทางการแสดง กับการถ่ายทอดอารมณ์ช่วงชีวิตสุดท้ายของคนที่ตั้งรับกับความเจ็บปวดในอดีตไม่ไหวอีกต่อไป จนเป็นที่พูดถึงสนั่นโซเชียลทวิตเตอร์จนติดเทรนด์อันดับหนึ่งข้ามคืนเลยทีเดียว เราไปดูกันว่าชาวโซเชียลทวิตเตอร์จะพูดถึงเรื่องนี้ผ่านแฮชแท็ก #ใบไม้ที่ปลิดปลิวตอนจบ ว่าอย่างไรบ้าง

 

อันที่จริงแล้ว ความผิดแผกแตกต่างกันแบบนี้หาใช่จะเป็นปัญหาใดๆ ไม่ จนกว่าความแตกต่างดังกล่าวจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการอธิบายว่า วิถีปฏิบัติของใครอยู่สูงกว่าใคร อะไรเป็นสิ่งที่สังคมยอมรับชอบธรรม และอะไรคือความเบี่ยงเบนหรือถูกตีตราว่านอกรีตนอกขนบของสังคม การจำแนกขั้วความแตกต่างซึ่งกลายเป็นข้ออ้างแห่งการเลือกปฏิบัติเยี่ยงนี้ต่างหาก ที่จะนำไปสู่ความเกลียดชังระหว่างมนุษย์ด้วยกัน

 

 

ไม่ต่างไปจากชีวิตของ “ชนันธวัช” ที่เป็นประหนึ่งใบไม้ที่แตกยอดอ่อนมาบนความเกลียดชังของผู้เป็นบิดาอย่าง “ชมธวัช” เพียงเพราะเขาเลือกจะมีเพศวิถีที่แตกต่างไปจากที่พ่อคาดหวังจะให้เป็น ชีวิตของชนันธวัชจึงล่องลอยเฉกเช่น “ใบไม้ที่ปลิดปลิว” ห่างไกลไปจากต้นไม้ที่ให้กำเนิดเขาเอง

 

ละคร ใบไม้ที่ปลิดปลิว

โครงเรื่องของละคร “ใบไม้ที่ปลิดปลิว” นั้น เริ่มเปิดฉากให้เราได้เห็นภาพของชนันธวัชที่ทบทวนหวนคิดไปถึงความเจ็บปวดที่ฝังตรึงเป็นปมในใจตั้งแต่วัยเยาว์ เพราะแม้เพศธรรมชาติจะเป็นชายโดยกำเนิด แต่หัวใจอันเป็นหญิงที่หลบเร้นอยู่ก็ทำให้เขาปฏิเสธเพศทางกายภาพที่ฟ้าลิขิตเป็นโครโมโซมมาให้กับตน

 

 

ยิ่งเมื่อภาพในอดีตฉายให้เห็นตัวละครชนันธวัช ซึ่งเติบโตมาในบรรยากาศที่คนใกล้ชิดในครอบครัวมีท่าทีรังเกียจต่อเพศสภาพที่เขาเลือกจะเป็น เช่นที่ “รังรอง” ผู้เป็นอาสาวแท้ๆ ได้กล่าวว่า “อะไรก็ได้ ขออย่าให้เป็นกะเทยก็พอ” หรือแม้กระทั่งชมธวัชผู้เป็นพ่อก็มักพูดจาดูถูกลูกชายของตนด้วยวลีสั้นๆ ว่า “อีกะเทย” การถูกกระทำทั้งกายวาจาและใจเยี่ยงนี้เองได้สั่งสมเป็นบาดแผลในจิตใจของชนันธวัชมาตั้งแต่วัยเยาว์

 

 

แม้ชมธวัชจะได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงและฐานะมั่งคั่งด้วยสินทรัพย์นับพันๆ ล้าน แต่ความสำเร็จในกิจการค้าขายบ้านในฝันให้กับคนอื่นๆ ก็ย้อนมาเสียดสีตัวเขาเองว่า สำหรับสถาบันบ้านที่เขาเป็นผู้ถือครองในฐานะหัวหน้าครอบครัวจริงๆ นั้น ความเกลียดชังต่อเพศสภาพของบุตรชายก็ทำให้เขาล้มเหลวในชีวิตครอบครัวโดยสิ้นเชิง

 

ดังนั้น เพื่อหลบหนีไปจากสภาพแวดล้อมแห่งการเลือกปฏิบัติที่พ่อมีต่อตน ชนันธวัชจึงตัดสินใจ “ปลิดปลิว” โบยบินจากบ้านไปใช้ชีวิตยังต่างแดนตั้งแต่เด็ก พร้อมกับ “นิรมล” อดีตนางแบบผู้เป็นมารดา ซึ่งเข้าใจและยอมรับเพศสภาพที่ลูกชายเป็นผู้ตัดสินใจเลือกเอง

 

และเพราะได้รับแรงสนับสนุนจากมารดา ในเวลาต่อมาชนันธวัชก็ตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศที่ต่างประเทศ เพื่อรื้อสร้างรูปลักษณ์ทางกายภาพให้กลายเป็นสาวสวยในชีวิตเพศสภาพที่เลือกเอง รวมทั้งเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามเสียใหม่ว่า “นิรา คงสวัสดิ์” เพื่อปกปิดและลบเลือนปมบาดแผลจากอดีตที่มีอยู่เดิม

ละคร ใบไม้ที่ปลิดปลิว

แต่อย่างไรก็ดี ก่อนที่จะได้เริ่มต้นชีวิตและอัตลักษณ์ทางเพศแบบใหม่ นิราก็ต้องสูญเสียมารดาในอุบัติเหตุรถคว่ำ โดยที่ส่วนหนึ่งของสาเหตุการเสียชีวิตก็มาจากชมธวัชที่ยังตามคุกคามเธอกับแม่อีกเช่นกัน

ภายใต้แรงขับที่มาจากการบีบคั้นของบิดาและการสูญเสียมารดาที่คอยยืนเคียงข้างนิรามาตลอด รีวิวละครฮิต

 

 

 

 

ละครได้ให้คำอธิบายว่า เฉพาะร่างทางกายภาพของคนเราเท่านั้นที่อาจจะ “รื้อถอน” และ “สร้างใหม่” ให้ต่างไปจากเพศโดยกำเนิดได้ แต่ทว่า กับบาดแผลความเกลียดชังที่ฝังลึกอยู่ในห้วงจิตไร้สำนึกของมนุษย์อย่างนิรานั้น หาใช่จะเป็นไฟล์ที่ถูกลบทิ้งไปจากโปรแกรมความทรงจำได้โดยง่าย

 

 

ด้วยเหตุดังกล่าว นิราจึงตัดสินใจกลับมาเมืองไทย มาแก้แค้นบิดาและอาผู้หญิงเพื่อชดเชยความเจ็บปวดและความสูญเสียต่างๆ ที่เธอได้รับมาในชีวิต พร้อมกับเสียงก้องที่อยู่ในห้วงคำนึงและหยาดน้ำตาของตัวละครว่า “ทุกคนจะต้องได้รู้ว่าความเจ็บปวดมันเป็นเช่นไร…ทุกคนต้องได้รู้ว่าเราเจ็บปวดแค่ไหน…”

 

 

พลันที่กลับมาถึงเมืองไทย นิราก็มาเริ่มต้นอาชีพเป็นช่างแต่งหน้าหญิง ก่อนที่ภายหลังเธอจะหันเหมาเป็นดารานางแบบที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง แต่ไม่ว่าจะเป็นช่างแต่งหน้าหรือนางแบบ ก็มีนัยสะท้อนตัวตนของหญิงข้ามเพศแบบนิราซึ่งมีสองด้านในความเป็นมนุษย์ ที่มีทั้งหน้าฉากและหลังฉาก มีด้านที่เปิดเผยและปกปิด และมีด้านที่เจ็บปวดภายใต้ใบหน้าที่ถูกตกแต่งหรือท่วงท่าเดินเหินอยู่บนเวทีแคทวอล์กนั้น

ละคร ใบไม้ที่ปลิดปลิว

รีวิว ใบไม้ที่ปลิดปลิว สรุปหลังดู

และที่สำคัญ การได้กลับมาพบกับ “ชัชวีร์” อาเขยที่เป็นรักแรกในวัยเด็กของชนันธวัช และค่อยๆ ก่อกลายมาเป็นรักครั้งใหม่ของนิรา ซึ่งต้องคอยปิดบังอำพรางเพศทางกายภาพอันแท้จริงของตน ก็คือความขัดแย้งระหว่างเหรียญสองด้านที่มีทั้งต้องปกปิดแต่ก็รอคอยวันเปิดเผยความลับของตัวละครนั่นเอง

ในเวลาเดียวกัน เพราะ “ความแตกต่าง” เคยถูกใช้เป็นกลไกและอำนาจความชอบธรรมที่ใช้เลือกปฏิบัติต่อผู้ที่มีเพศวิถีเบี่ยงเบนไปจากขนบจารีตที่สังคมส่วนใหญ่ยอมรับ ดังนั้น คู่ขนานไปกับการปลูกต้นรักครั้งใหม่ของนิรากับชัชวีร์ อีกด้านหนึ่งเธอก็เดินเกมให้ท่ายั่วยวนชมธวัช โดยที่เขาก็ไม่รู้ระแคะระคายเลยว่านิราตัวจริงก็คือบุตรชายแท้ๆ ที่ผ่าตัดแปลงเพศมาแล้ว

 

 

กระทั่งมาถึงจุดพลิกผันสุดขั้นของเรื่อง เมื่อนิราจัดฉากให้ชมธวัชถูกมอมยาและเข้าใจผิดว่าเขาได้มีความสัมพันธ์เกินเลยกับกะเทย ผู้ชมก็ได้เห็นภาพการกรีดร้องอย่างคับแค้นของผู้ชายคนหนึ่งอย่างชมธวัชซึ่งถูกเหยียบย่ำความเป็นบุรุษเพศ โดยผู้ชายอีกคนที่มีเพศสภาพเป็นกะเทยซึ่งเขาทั้งแสนจะเกลียดและกลัว

 

 

แต่ในทางกลับกัน ฉากการกรีดร้องข้างต้นก็สะท้อนให้เห็นด้วยว่า ในขณะที่ชมธวัชเคยใช้ความเกลียดชังเป็นอำนาจกดทับบุตรชายที่มีความแตกต่างทางเพศวิถีมาก่อน แต่เพราะอำนาจไม่เป็นปฏิบัติการที่ “ไม่เข้าใครออกใคร” นิราจึงได้แปลงความเกลียดชังดังกล่าวมาย้อนเป็นอำนาจที่จะให้บทเรียนว่า ความเกลียดกลัวในจิตใจนั้นไม่เคยให้คุณกับผู้ใดได้จริงๆ

 

 

จนมาถึงฉากโศกนาฏกรรมที่นิรากระทำอัตวินิบาตกรรมเมื่อความลับเรื่องเพศสภาพถูกเปิดเผยมาในตอนจบ โดยมีตัวละครรอบข้างถูกดึงมารับรู้สถานการณ์ดังกล่าว ละครโทรทัศน์ก็ได้สรุปเป็นนัยๆ ว่า ความเกลียดชังเพียงเพราะวิถีปฏิบัติที่แตกต่างกันของคนเรา ไม่เพียงแต่จะสร้างบาดแผลให้กับผู้ที่ถูกเกลียดกลัวเท่านั้น หากแต่ยังมาซึ่งความเจ็บปวดในใจของผู้ที่เลือกปฏิบัติความเกลียดชังต่อผู้อื่นด้วยเช่นกัน

เป็นตอนจบที่แฟนละคร ปรบมือให้รัวๆ สำหรับ ใบ้ไม้ที่ปลิดปลิว ละครดัง ทางช่อง ONE31 กับการแสดงขั้นเทพของนักแสดงทุกคนในเรื่อง รวมทั้ง ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ที่รับบท นิรา นางเอกของเรื่อง ที่ตีบทแตก เรียกน้ำตาแฟนๆไปได้เต็มๆ จนชาวเน็ตออกปากว่า ได้ก้าวขา ขึ้นแท่น”ตัวเก็ง” นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประจำปีนี้ไปแล้วครึ่งก้าว …

 

ในขณะที่แฟนนวนิยายต้นฉบับ ที่เขียนโดย ทมยันตี ซึ่งอ่านเนื้อเรื่องมาแล้ว และทราบ บทสรุปของ “นิรา” ว่าตาม นวนิยาย จะลงเอยอย่างไร ก็ถึงกับอ้าปากค้าง”เงิบ” ไปตามๆกัน กับการที่ละครเปลี่ยนตอนจบไปแบบชนิดพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ(ในนิยาย นิรา ตาย แต่ในละคร สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ทัน)

 

ซึ่งจากต้นเหตุนี้จึงทำให้เกิดเสียงถกเถียงกันในโซเชียลไปเป็นสองแง่มุม อีกฟากหนึ่งมองว่าการเปลี่ยนบทสรุปดีและเหมาะสมที่สุดแล้ว เพราะยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไป สมัยนี้การเป็นเพศที่สามไม่ใช่เรื่องแปลกแยกอีกต่อไปและละครก็ทำได้สวยงามและตราตรึงใจอย่างที่ดีสุดไม่แพ้ฉบับนิยาย

 

แต่อีกด้านก็มองว่า การเปลี่ยนบทสรุปไม่ให้ นิรา ตาย ตามบทประพันธ์นั้น ถือเป็นการไม่ให้เกียรติบทประพันธ์ซึ่ง ตัวอย่าง คอมเมนต์ ก็เช่น >>>>

 

1.”เห็นด้วยกับการเปลี่ยนบท เพราะนิยายเก่าล้าสมัยแล้ว สมัยนี้เรื่องข้ามเพศไม่ได้ร้ายแรงเลย

 

ไม่ชอบบทในนิยาย เพราะไม่ชอบทุกคนที่คิดทำร้ายตัวเอง

เพราะนั่นคือคนเห็นแก่ตัวที่ทำร้ายทำลายความรักที่คนรอบข้างมอบให้อย่างไม่ไยดี หมกมุ่นแต่เรื่องของตัวเองโดยไม่คิดถึงคนอื่น”,

 

2.”ปี2019 ถ้าจบแบบตายตามบทประพันธ์ถือว่าหลงยุคมาก จบแบบนี้ดีนะจะแฮปปี้สวีทวี๊ดวิ้วกับอาชัชก็ใช่ที่ จะลงเอยกับหมอก็ละครเกินเพราะนิราไม่ได้รักหมอ

 

อาชัชหย่าแล้วจะกลับมาหาอาเมื่อไรก็เอาที่นิราสบายใจเลยแบบนี้ดีสุด”,

 

3.”ดิฉันถือว่าไม่เคารพบทประพันธ์นะคะ และสอง EP. สุดท้าย คือ ปลอมมาก โดยเฉพาะการไปอังกฤษของนักสืบ และการฆ่าตัวตาย ก็ไม่มีถูกหรือผิดค่ะ เพราะดิฉันไม่เคยตัดสินการกระทำของใคร และเคารพการตัดสินใจของคนๆนั้นเช่นกันค่ะ

ซึ่งถ้าเราไม่ใช่เขา

ไม่ได้เจออะไรมาแบบเขา

ก็มิบังควรไปตัดสินใครนะคะ”,

4.จบดีเลย เพราะในลมหายใจสุดท้ายก็มีความคิดว่าอยากจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เพราะตอนที่ฆ่าตัวตายมันไม่มีสติ พอได้กลับมาก็ได้ปลดความทุกข์ออกจากใจ ครอบครัวและคนที่ตัวเองรักต่างก็ยอมรับได้หมด ได้ไปใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองอยากเป็น ถึงแม้จะไม่เต็มร้อย แต่อย่างน้อยต่างก็ได้บทเรียนในชีวิตกันแล้ว ไม่อยากให้ตายเลยจริงๆเพราะหดหู่มาทั้งเรื่องเลยให้ได้มีความสุขในตอนจบบ้างเถอะ,

 

5.คือเรารุ้สึกว่าถ้าจบแบบนิยายมันจะสะเทือนใจกินใจคนดูมากกว่านี้ถึงมันจะไม่แฮปปี้ก็ตาม ตอนจบมันทำให้เรารุ้สึกว่าเหมือนละครดาดๆทั่วไป ไม่ใช่ว่านักแสดงเล่นไม่ดีนะคะ แต่มันขยี้ไม่สุดหรือเราเสพติดหนังที่ตอนจบจบแบบหดหู่ก็ไม่รู้ แอบเสียดายบทประพันธ์เล็กๆดัดแปลงไปเกือบทั้งเรื่องก็มีความหวังว่าตอนจบคงจบแบบในนิยายและน่าสุดท้ายก็…ดัดแปลงยันจบ ชีวิตจริงถ้ากะเทยจะตายเพราะจมปลักกับการดูหนังดูละคร กะเทยคงตายไปเยอะตั้งแต่สมหญิงดาวรายเพลงสุดท้ายแล้วล่ะ,

 

6.ความเห็นส่วนตัวสำหรับเรา คำว่า ปลิดปลิว มันควรจะต้องจบแบบในนิยายนะ และในเมื่อแปลงบทขนาดนี้ก็น่าจะเปลี่ยนชื่อเรื่องไปเลย แล้วบอกคัดลอกโครงเรื่องมากจากนิยายเรื่องนี้ ยังดูน่าจะดีกว่า,

 

7.จริงๆก็อยากให้จบแบบนิยายนะ คนจะจดจำขึ้นใจเลยว่าตอนจบเป็นแบบนี้ สะเทือนใจ หดหู่จะ เป็นภาพจำเลย

แต่จบแบบดัดแปลงก็ดี แฮปปี้คนดูมีความสุขไม่เศร้าด้วย แค่ไม่จดจำเท่าไหร่

 

สรุป แล้วแต่มุมมองนะ,

ละคร ใบไม้ที่ปลิดปลิว

และแม้ภายหลังนิราจะรอดพ้นจากความตาย พร้อมกับมีเสียงก้องความในใจที่กล่าวว่า “…ก่อนที่คนเราจะตาย เราจะรู้สึกว่าชีวิตมีค่ามาก ในนาทีที่ทุกอย่างกำลังจะดับลง เราจะอยากกลับไปทำทุกอย่างให้ดีที่สุด อยากกลับไปยกโทษให้คนที่เราเคยโกรธเคยเกลียด…” แต่นั่นก็เป็นเสียงก้องเพื่อสะท้อนย้อนคิดไปด้วยว่า หากมนุษย์จะลดละเลิกความเกลียดชังต่อเพศวิถีหรือวัตรปฏิบัติที่แตกต่างกันได้ตั้งแต่ฉากเปิดเรื่อง เราก็คงไม่ต้องรอให้ตัวละครมายกโทษให้อภัยกันและกันในฉากจบเช่นนี้หรอก

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *